2008-05-30

.: ร่วมทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ :.



1. ความเพียร
การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันควรทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีควรต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯวันที่27 ตุลาคม 2516

2. ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540

3. ความรู้ตน
เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน
พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521

4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521

5. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ
ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496

6. พูดจริง ทำจริง
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจ จัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540

7. หนังสือเป็นออมสิน
หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514

8. ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531

9. การเอาชนะใจตน
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น

๏~* ในหลวงทรงร้องไห้ *~๏

เมื่อไม่นานมานี้ ที่ผ่านมาผมได้ไปงานที่โรงเรียน เหมือนเช่นทุกปีตอนกลับเดิ นมาตามตึกยาวเพื่อจะกลับมาทางประตูด้าน เพาะช่าง ยังไม่ถึงบริเวณเศาลหลวงพ่อปู่ พบอาจาร์ยท่านหนึ่งนั่งอยู่ จำได้ว่าเป็นอาจารย์สุธี ท่านเกษียณไปแล้ว ไม่รู้คุณรู้จักรึเปล่า กราบอาจารย์ท่านแล้ว สังเกตุเห็นว่าอาจารย์ร้องไห้อยู่ ท่านบอก เพิ่งได้พบกับรุ่นพี่ที่มาในงาน รุ่นที่เท่าไหรก้อไม่ได้ถาม เป็นนายทหารราชองครักษ์ชั้นผู้ใหญ่ เค้าเล่าให้อาจารย์ฟังว่า

****ในหลวงทรงร้องให้เห็นบ่อย**** 'ทรงเสียใจที่เมืองไทยจะสิ้นในรัชกาลของท่าน แล้วกระนั้นหรือ' ผมอยากจะตอบอาจารย์ไปว่าคงไม่หรอก ถ้าคนไทย รู้จำคำว่าว่า'หน้าที่'มากกว่า'สิทธิ' เราเคยชินกับการเป็น..ผู้รับ...จากคนคนหนึ่งที่เกิดมาเป็น..ผู้ให้...ให้มาตลอด เคยชินจนลืมไปว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วรึยังที่ เราควรจะผู้ให้แก่พระองค์ท่านบ้าง... ผมลาอาจารย์เรียบร้อยร้อย กลับไปตามตึกยาว ไปไหว้ พระผู้ให้กำเนิดโรงเรียน อธิฐาษขอให้พระองค์ท่านช่วยคุ้มครองให้หลานท่านทรงมีแต่ความสุข..ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง...เพียงแค่ไม่อยากไ้ยินว่า ..ในหลวงทรงร้องไห้ ความสุขของพระมหากษัตริย์ หนึ่งปีที่ผ่านมาเราใส่เสื้อเหลืองเราใส่สายรัดข้อมือสีเหลืองคนนับแสนไปนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคมเพื่อจะได้เห็นพระพักตร์ของพระบาทพระเจ้าอยู่หัวเพียงไม่กี่นาทีวันนั้น ในขณะที่ทั้งโลกเริ่มเสื่อมศรัทธาในระบบการปกครองโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเราได้ แสดงให้โลกได้เห็นว่ามีประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่งที่คนทั้งชาติยังซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อราชวงศ์ จักรี และ พระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่งของคนไทย

.....สิบสองปีที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรหนักด้วยโรคหัวใจเพราะทรงงานหนักเกินไปในขณะเดียวกัน สมเด็จพระราชชนนีก็ทรงพระประชวรหนักอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราชเช่นกัน เรายังจำรูปในหนังสือพิมพ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมพระราชชนนีไม่กี่วันหลังจากการผ่าตัดใหญ่ถวาย พระหัตถ์ข้างหนึ่งกุมอยู่ที่พระอุระ และในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่งทรงถือ ม้วนแผนที่กรุงเทพฯ เพระน้ำกำลังท่วมกรุงอยู่ ยังจำกันได้ไหม?

..... 34 ปีที่ผ่านมา วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เป็นครั้งแรกในรัชกาลที่เกิดวิกฤติด้านการเมืองรุนแรงที่สุด วันนั้น นิสิตนักศึกษาและประชาชนนับหมื่นนับแสนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล เหตุการณ์ร้ายแรงยิ่งขึ้นตำรวจทหารยิงประชาชน ในขณะที่นิสิตนักศึกษาก็เผาสถานที่ราชการ เกิดกลียุคทุกหย่อมหญ้า 'คนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง' คืนนั้น สถานีโทรทัศน์ทุกช่องถ่ายทอดสดจากพระราชวังสวนจิตรลดา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสกันคนไทยทุกคนว่า “คนไทยจะฆ่าคนไทยด้วยกันไม่ได้ ทุกอย่างต้องสงบโดยฉับพลัน” และทุกอย่างก็สงบโดยฉับพลัน หลังจากนั้นไม่นาน มีฝรั่งคนหนึ่งมาถามผมว่า “เป็นไปได้อย่างไร ที่คนๆ เดียวจะมีอำนาจเหนือคนทั้งประเทศได้อย่างนั้น?” ผมไม่ได้ตอบ แต่ตอนนั้นใจผมคิดถึงประโยคที่ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมชฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BBC ว่า พระองค์ทรงเป็น 'SOUL OF THE NATION' หรือ“จิตวิญญาณของคนไทยทั้งชาติ” ยังจำกันได้ไหม?

แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ เราสร้งค่านิยมผิดๆ ว่าคนที่ประสบความสำเร็จคือคนที่มีเงินมากที่สุด เราโกงทุกครั้งที่มีโอกาส
เราเรียกร้องประชาธิปไตยโดยคิดถึงแต่ “สิทธิ” แต่ลืมคำว่า “หน้าที่” เรากำลังฆ่ากันเองทุกวันในภาคใต้ เราสร้าง “กฎหมู่” ให้เหนือ “กฎหมาย” เราเดินขบวนประท้วงในทุกอย่างที่เราไม่เห็นด้วย เราก้าวร้าวต่อกัน เราแตกแยกกัน และทั้งโลกกำลังจับตามองเราอยู่ เราเคยหยุดคิดกันบ้างไหมว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทรงเสียพระทัยเพียงใด? แล้วสิ่งที่เราทำไปในวันเฉลิมพระชนมพรรษาคืออะไร การที่เราใส่เสื้อเหลือง สายรัดข้อมือ ที่ว่า Long life The King เราทำเพื่ออะไร มันเป็นแค่ผักชีโรยหน้าที่จะแสดงให้โลกเห็นว่าคุณรักพระมหากษัตริย์เพียงใดเท่านั้นนะเหรอ 80 ชันษาของพระองค์ท่าน หากเปรียบกับคนธรรมดาก็สมควรที่จะได้พักเต็มที่ได้รับการดูแลและระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่สมควรที่จะตรากตรำทำงานหนัก แต่กลับเป็นว่า ในปีที่ครบ 80 ชันษาของพระองค์ท่านยังต้องทรงงานอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ทรงต้องอยู่ภายใต้การถวายการดูแลของคณะแพทย์ พระองค์ต้องรับทุกข์ของคนไทยทั้งชาติ ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ไม่ใช่จะประทับอยู่ในพระราชวังใหญ่โตสวยงาม แห่ล้อม ด้วยข้าราชบริพาร หากแต่ความสุขของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้คือ เมื่อประชาชนของพระองค์ท่านรักสามัคคีกัน รู้จักความ พอเพียง และมีสติ-เพียงเท่านี้เอง

แล้ววันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่? หรือนี่คือการแสดงความกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ของ ถ้ารักในหลวงรักประเทศของเราก็ส่งต่อไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนคุณแผนดิน ตอบแทนพระคุณพ่อแล้ว

2008-05-28

๏~* เคล็ดลับในการปักธูป และอานุภาพที่ได้ *~๏


เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กรุณาใช้วิจารณญานในการอ่าน

ทุกท่านที่มีจิตใจน้อมนำในการปฎิบัติบูชา ย่อมเกิดอานิสงฆ์ของทางด้านจิตใจย่อมทำให้สงบลง ฟุ่งซ่านอะไรมาเวลาเราสวดมนต์ไหว้พระขอพรจะทำให้จิตใจเราที่กำลังร้อนรุ่มกลุ้มใจอะไรอยู่ย่อมสงบลงได้ไม่มากก็ น้อยขึ้นแต่ละบุคคลไปว่าทำได้มากน้อยแค่ไหนจึงมีกลบายวิธีที่จะทำให้เราจิตใจสงบ ท่านไม่ต้องเชื่อแต่ลองปฎิบัติดูว่าจิตใจเราจะสงบและเย็นลงไหมนั้นย่อมขึ้นกับบุญบารมีที่สะสมมาแต่ชาติไหน

สังเกตุไหมว่า บางคนบุญทานไม่เท่ากัน บางคนก็รวย บางคนก็จน บางคนก็กลาง ๆ พอกินพอใช้ไปเรือยๆ อันนี้ส่งผลของบุญและทานแต่ชาติปางก่อนหรือชาติปัจจุบันก็ว่าได้ ฉะนั้นคนที่รวยมาก ๆ ก็เป็นอานิสงฆ์ของบุญเก่าที่เขาสะสมมามาก

แต่ที่นี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เวลาทำบุญทำทานก็อธิษฐานให้รวยถูกหวยรวยเบอร์ดังที่ต้องการเช่นกันไม่ เพียงแต่ทำบุญเพื่อหยั่งผลประโยชน์พุทธศาสนาสืบทอดต่อไปอย่าไปหวังบุญเพื่อให้ร่ำรวยถูกหวยรวยเบอร์รางวัลใหญ่ไม่ การประกอบผลบุญก็คือ.ให้จิตเราสงบเย็น และละความทิฐิมานะในกมลสันดานที่ขี้เหนียวในจิตใจให้มีแต่ให้ รวมไปถึงทานทีเราบริจาคไปย่อมได้อานิสงฆ์ที่ก่อเกิดขึ้นให้จิตเราสงบได้โดยมหัศจรรย์

มนุษย์เราถ้าจิตสงบแล้วอะไรทุกอย่างในปัญหาความรัก,การงาน,ความวุ่นวายในสังคมก็ย่อมจะสงบตามไม่แบ่งชั้นวรรณะ รูปธรรม นามธรรมต่างๆ ให้เกิดการขัดแย้งกันขึ้นในสังคมทุกวันนี้

ฉะนั้นขอท่านทั้งหลายน้อมจิตน้อมใจในปัญหาที่เกิด ขึ้นทั้งที่ไม่ดีที่เข้ามาในดวงชะตาชีวิตของเรา ที่นำพาให้เกิดทุกข์อันใหญ่หลวงนี้ ให้สงบและระงับไปในที่สุดโดยการหมั่นสร้างบุญ และ ทาน ทานศิล ภาวนา เช่นจิตเราไม่สงบก็หาอะไรที่เป็นทางออกที่ดีให้สงบเพื่อไปเป็นยาโอสถธรรมไประงับให้สงบลงได้

ก็คือการหันมาสวดมนต์ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณ เพื่อจิตของเราที่กำลังทุกข์อยู่ให้สงบระงับลงไปบ้าง ต้องลองปฎิบัติดู ฉะนั้นการที่จะให้ถึงจิตถึงใจและสงบระงับจริงๆ ทุกรูปทุกนามย่อมต้องมีการสัมผัสรูป รส กลิ่น เสียง ซึ่งเป็นหลักของกิเลสมนุษย์

โดยเฉพาะการจุดธูปหอมๆ เมื่อเราได้กลิ่นของธูปแล้วจิตใจบางคนก็เกิดความสดชื่นแจ่มใส่ ขึ้นก็มี บางคนก็รู้สึกโล่งสบายใจก็มี (ยกเว้นคนที่ไม่ชอบกลิ่นอะไรฉุน ๆ มีอาการแพ้) ก็มีอันนั้นก็อีกเรื่องหนึ่งของธาตุแต่ละคนไป

เมื่อจุดธูปแล้วจะปักธูปให้ปักดังนี้.. ถ้าจุดธูป 3 ดอก ก็ให้ปักที่ละดอก ดอกละ 1 ปักตรงกลางกระถางธูป แล้วอีกสองดอกปักขวามือของเราและซ้ายตามเป็นสามดอก (ไม่ใช้ปักที่เดียวกำที่เดียว)ตรงกระถางธูปเลย ไม่ใช้.. ถ้าจุดธูป 5 ดอก ก็ปฎิบัติเดียวกับ 3 ดอก ที่เหลือ 2 ดอกก็ปักด้านบนและด้านล่าง ของกระถางธูป ..ถ้าจุดธูป 9 ดอก ก็ปฎิบัติเช่นเดียวกันกับ 5 ดอก ที่เหลือก็ปักมุมแต่ละมุมให้ครบ 9 ดอกโดยวนจากขวามาหาซ้ายภายในกระถางธูป

เหตุผลและอานุภาพปักธูปตามทิศ (กระถางธูป)
1.ธูปที่ปักตรงกลางกระถางธูปก่อน เทียมเท่ากับบูชาดวงชะตาทั่วไปของตนเอง
2.ธูปที่ปักขวาตรงกระถางธูปเทียมเท่ากับป้องกันอันตรายอาถรรพณ์เพศไม่ให้เกิดกับดวงชะตาตนเอง
3.ธูปที่ปักซ้ายตรงกระถางธูปเทียมเท่ากับให้เป็นเมตตามหาเสน่ห์กับดวงชะตาทั่วไป
4.ธูปที่ปักด้านบนกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศเหนือเพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
5.ธูปที่ปักด้านล่างกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศใต้เพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
6.ธูปที่ปักด้านเฉียงกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเป็นศิริมงคลดวงชะตาตนเอง
7.ธูปที่ปักด้านเฉียงกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเป็นศิริมงคลดวงชะตาตนเอง
8.ธูปที่ปักด้านเฉียงกระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันตกเฉียงใต้เพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง
9.ธูปที่ปักด้านเฉียงถระถางธูปเทียมเท่ากับบูชาทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อเป็นศิริมงคลกับดวงชะตาตนเอง

๏~* เจลบัวบก รักษาแผลในปาก *~๏



คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ วิจัยสกัดเป็นเจลบัวบก รักษาแผลในช่องปากได้ผลชะงัด ไม่มีแผลเป็น แนะประชาชนคั้นน้ำใบบัวบกดื่มแก้ร้อนใน เจ็บคอ พร้อมเตือนอย่าดื่มเป็นประจำ อาจมีอันตรายต่อม้าม

รศ.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ ภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้ร่วมกับ รศ.สุชาดา ประเสริฐวิทยาการ อาจารย์คณะเดียวกัน ร่วมกันวิจัยเรื่อง "เจลบัวบกยึดติดเยื่อบุเมือกในช่องปาก" เป็นการนำสมุนไพรบัวบก มาใช้ประโยชน์ในการรักษา แผลในช่องปากอย่างได้ผล เนื่องจากใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยรักษาแผลภายนอกร่างกายให้หายเร็วขึ้น และไม่เป็นแผลเป็น จากสรรพคุณดังกล่าวทำให้เกิดแนวคิดในการนำใบบัวบกมาใช้ในการรักษาแผลในช่องปาก

รศ.ชัยโย กล่าวว่า สารสกัดจากบัวบก ได้จากการแช่ยุ่ยใบสดในเมธานอล และแยกสารสกัด โดยวิธีลำดับส่วน จากการศึกษาได้มีการพัฒนาเจลใบบัวบกให้ยึดติดเยื่อบุเมือกในช่องปากมากขึ้น ซึ่งตามปกติแล้วยาในลักษณะเจลที่ขายอยู่ตามท้องตลาดส่วนใหญ่มีความเหนอะหนะ

ทั้งนี้ ได้มีการทดลองนำเจลบัวบกมาเปรียบเทียบกับยาหลอก และยาที่ขายในท้องตลาด ในกลุ่มอาสาสมัคร100 คน โดยให้อาสาสมัครทายา 3 ครั้ง คือ หลังอาหารเช้า, เย็น และก่อนนอน แล้ววัดขนาดของแผลเป็นมิลลิเมตร ในความแรง 0.5, 1 และ 2% ซึ่งผลการทดลองพบว่า เจลบัวบกทำให้ขนาดของแผลลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยิ่ง มีสารสกัดของใบบัวบกมากขึ้น ก็จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น ทำให้อาการปวดแผลหายเร็วกว่าการใช้ยาที่ขายตามท้องตลาดด้วย

รศ.ชัยโย กล่าวด้วยว่า ในอนาคตมีแนวคิดที่จะพัฒนาให้เจลใบบัวบกติดทนได้นานกว่าเดิม โดยนำไขโกโก้มาเคลือบปิดตัวยา เพื่อให้พอลิเมอร์ที่มีอยู่ในยา ไม่ถูกน้ำลายชะล้างได้ง่าย ทำให้เจลบัวบกอยู่ได้นานขึ้นถึง 5-6 ชั่วโมง มีผลทางการรักษา ทำให้แผลหายเร็วขึ้น

สำหรับประชาชนทั่วไป หากมีแผลร้อนใน เจ็บคอ หรือไม่สบายตัวช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง สามารถนำใบบัวบกมาใช้ได้ด้วยการนำใบมาปั่น หรือตำด้วยครกคั้นน้ำมาผสมกับน้ำ ตาลทรายแดงตามชอบรับประทาน เมื่อมีอาการจะทุเลาลงได้ แต่ไม่ควรรับประทานเป็นประจำ เพราะใบบัวบกมีฤทธิ์เย็น ตามตำรายาจีนระบุว่า จะส่งผลกระทบต่อม้ามและอวัยวะภายใน ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย

2008-05-27

เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต

เมื่อวานดูข่าวช่อง 3 มีข่าวนึงที่ทำให้ต้องหันมาตระหนักถึงบางอย่างใกล้ตัว

1. เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่มที่ขายๆ กันตามห้างสรรพสินค้า เซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งที่ไปเติมน้ำมันครบ 800 แถมน้ำ 1 ขวด อะไรทำนองนั้น ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า โดยสารพิษชนิดหนึ่ง สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ครั้งเดียว อายุการใช้งานสั้น ๆ ! เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดายนำมาบรรจุน้ำดื่มอีก รวมทั้งน้ำที่มากับขวด หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์ ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดที่ๆร้อนๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้ ดังนั้นเมื่อเปิดดื่มแล้ว ควรดื่มให้หมดภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะหากเก็บขวดนั้นไว้ที่ร้อน ๆ ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้องจะปลอดภัยกว่า

2. ม่านพลาสติกที่แขวนในห้องน้ำเพื่อกั้นพื้นที่แห้ง กับเปียก มีข่าวแจ้งมาว่ามีนักจุลชีววิทยา คนนึงในต่างประเทศ เค้าสังเกตว่าที่ม่านพลาสติกมีคราบดำ ๆ ทีแรกเค้าคิดว่าเป็นคราบสบู่ เค้าลองขูดแล้วเอาไปส่องกล้อง ปรากฏว่าคราบดำ ๆ ดังกล่าวเป็นแบตทีเรียชนิดร้ายแรง ที่เติบโตโดยอาศัย การผายลม การเลอ การไอ จาม ของมนุษย์เรานี่แหละ เป็นอาหารอย่างดีของมัน เค้าแนะนำว่า เราควรถอดไปซัก อาทิตย์ละครั้ง หรือ เดือนละ2 ครั้งก็ได้ หรือถ้าไม่มีเวลาก็เดือนละครั้งก็ยังดี นอกจากนี้เค้าเตือนว่า อะไรที่เป็ นพลาสติกก็เข้าข่ายเหมียนกัลลลล....ล โดยเจ้าเชื้อโรคเนี่ยมันจะเข้ามาทำอันตรายเราก็ต่อเมื่อ เราป่วย มีบาดแผล คนแก่ คนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ แล้วต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน

3. เรื่องคนนอนดึก เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา3 ทุ่ม เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ ย่อยอาหารให้หมด ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ย แน่นอน ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสมอ่ะ ?ต่ถ้านอนดึกเล ี่ยงไม่ได้ เพราะขนงานมาทำ หรือติดงานอะไรก็ตาม ควรปฏิบัติดังนี้
    3.1 งดเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ เพร! าะย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก
    3.2 หากเราอยากกินเนื้อสัตว์ ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด ยิ่งเคี้ยวละเอียด ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้
    3.3 ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ หรือ ! น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง & nbsp; หรือถ้าไม่มีอะไรเลย น้ำอุ่นธรรมดา สัก1 แก้วก็ได้ เหมียน กัลลล...ล
    3.4 เวลานอน ควรทำให้ช่วงท้อง/ ฝ่าเท้าอุ่น โดยการห่มผ้า
    3.5 ที่จริ! งมื้อดึก ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น ผัก ผลไม้ นม ไข่ เนื้อปลา จะดีกว่า
    3.6 ควรเลี่ยงน้ำเย็น น้ำอัดลม เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย ร่างกายเราต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร จะทำให้ร่างกายเราต้องพยายามปรับอุณหภูมิ ให้อุ่นเหมาะสมก่อน แล้วจึงนำไปใช้ การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มีประโยชน์อะไร! เพิ่มกรดให้ร่างกาย แถมมีน้ำตาลที่สะสมตามร่างกายอีก

**** ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์ ควรกินเวลา 7.00 น - 9.00 น. เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ

อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ8 แก้วนะ น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสีย ออกจากร่างกาย อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด &n! bsp; เนื่องจาก ถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อย ๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี ห้ามกินนมตอนเช้า แทนข้าวเช้า เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อย นะจ๊ะ ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า หรือ ตอนบ่ายไปแล้ว หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่าย ๆ อย่างนม กับไข่ก็ไม่ว่ากัน

ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง เช่น ลูกเดือย ข้าวฟ่าง ฯลฯ มีประโยชน์ต่อลำไส้ คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค + แบตทีเรียชนิดไม่ดี ออกจากลำไส้เรา ควรกิน อาทิตย์ละครั้ง อย่างน้อย พืชผักสีเขียว มีคลอโรฟิว ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี เซลแต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อ! มีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ก่อนเอาผักมากิน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืมแช่น้ำส้มสายชู45 นาทีนะจ๊ะ